จับตา กองสลากพลัส ความพัวพัน ทุนสีเทา นอท พันธ์ธวัช ยัน ไม่ได้ฟอกเงิน
นอท กองสลากพลัส ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การฟอกเงิน ให้ กลุ่มทุนสีเทา สมชาย แสวงการ เผย คุย 5 หน่วยงาน ดำเนินการตามกฏหมาย
ตั้งแต่เกิดประเด็นของ กองสลากพลัส ที่เข้าไปพัวพัน เส้นทางการฟอกเงินของ กลุ่มทุนสีเทา ซึ่งเป็นประเด็น ที่ตามมาจากการผิด พ.ร.บ.ขายตรง และก็ตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ในการขายสลากออนไลน์ และเมื่อมีการเปิดเส้นทางการเงินของ นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอ ของ กองสลากพลัส ที่พบ 39 เส้นทางการเงิน จำนวนประมาณ 1000 ล้านบาท
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการตรวจสอบ เหตุเพราะมีรายชื่อ บุคคล ที่มีความเกี่ยวข้องกับ การพนันออนไลน์ ขบวนการยาเสพติด รวมอยู่ด้วย ซ้ำยังมีการโพสต์จาก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่เดินหน้าแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา แล้วก็ทุนไทยสีเทา ออกมาโพสต์ประมาณว่า ใกล้ถึงจุดเดือด ข่าวแว่วมาว่า ปลายเดือน จะมีการจัดการกับ “ทุนใหญ่สีเทา” แหล่งฟอกเงินของนายเอ็ดดี้ (พันณรงค์ ขุนพิทักษ์) มือเก๋าในวงการพนันออนไลน์ ระดับต้นของเมืองไทย
แล้วประเด็นร้อนกรณีนี้ จะเป็นยังไงต่อไป เนื่องจากดูเหมือนกับว่า เรื่องราวของ กองสลากพลัส เข้มข้นขึ้นทุกที
ซึ่งได้มีการสัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ กับ นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ในประเด็น ชำแหละ “กองสลากพลัส” เชื่อมโยงทุนสีเทา?
เพื่อพูดคุยความคืบหน้า แล้วก็เรื่องราวต่างๆ เพิ่มเติม ภายหลังจาก ตัวเขาเดินทางไปพักผ่อนที่ยุโรป แล้วก็เพิ่งเดินกลับมาวันที่ 26 ม.ค. ก่อนหน้านี้
นอท พันธ์ธวัช ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยได้เริ่มต้นการพุดคุยประเด็นของ ชูวิทย์ ว่า ในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่า จุดเดือด ที่ทาง ชูวิทย์ โพสต์ ในแฟนเพจนั้น เป็นยังไง แต่ว่ายืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนร่วม ในการฟอกเงิน ส่วนการที่เมื่อมาถึงเมืองไทยภายหลังจากเดินทางกลับจากการไปพักที่ต่างประเทศ แล้วไม่ได้ไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยตัวเอง เพราะเหตุว่าเป็นในส่วนการยื่นเอกสาร ไม่ใช่การสอบปากคำ จึงสามารถส่งทนายไปแทนได้
ซึ่งในเรื่องของเส้นทางการเงิน ที่มีการระบุถึง 39 เส้นทาง ซึ่งแบ่งเป็น เงินฝาก 27 ครั้ง ยอดรวมประมาณ 600 ล้านบาท และก็ถอนเงินอีก 12 ครั้ง ยอดราว 400 ล้านบาท เป็นธุรกรรมโดยรวม ราว พันกว่าล้านบาท
แบ่งเป็นเงินกู้จากบุคคลต่างๆ ประมาณ 240 ล้านบาท เงินจากการขายฝากบ้าน คอนโด 100 ล้านบาท เงินที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว เพื่อใช้ในการซื้อล็อตเตอรี่ ราว 330 ล้านบาท เงินให้ยืมอีกราวๆ 20 ล้านบาท และไม่มีส่วนไหนในเส้นทางการเงินพวกนี้ที่เกี่ยวข้องกับ เอ็ดดี้ การรู้จักก็เป็นไปตามที่เคยอธิบายไปแล้ว ส่วนในแง่ของการทำธุรกิจไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ส่วนเรื่องของคนชื่อ แทนไท ที่มาเกี่ยวข้อง ทาง นอท อธิบายว่า รู้จักกันมาเป็น 10 ปี ตั้งแต่สมัยเว็บบอร์ด ที่ไว้พุดคุยเรื่องการทำมาหากินในเน็ต ซึ่งมาเจอพบหน้ากันตามที่อธิบายในเฟซบุ๊กส่วนตัว คือ 10 ธันวาคม 2564 ซึ่งในตอนนั้นเงินส่วนตัวสำหรับการทำธุรกิจแพลตฟอร์มหมด และทราบว่า แทนไท ให้เงินลงทุนกับสตาร์ทอัพ
จึงได้ให้ทีมงานติดต่อ แทนไท เพื่อเข้าไปฟิชชิ่ง เนื่องจากว่าต้องการขยายการขายสลาก จาก 1.2 ล้านใบ ให้ไปถึง 3 ล้านใบ ก็เลยเข้าไปขอทุน ที่มาที่ไปของเงินทุนจาก แทนไท ทาง นอท อธิบายว่า ได้เห็นพอร์ตคริปโต ซึ่งคาดว่าเป็นแหล่งที่มาของเงิน
ต่อคำถามที่ว่า รายชื่อบุคคลที่มีเข้ามาเกี่ยวข้องกับ นอท มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ รวมถึงยังมีการคาดการณ์ว่าอาจจะถึงขั้นเกี่ยวข้อง กับการค้ายาเสพติด ตัว นอท ได้บอกว่า การเข้าไปรู้กับบุคคลต่างๆ ไม่ได้เป็นการรู้จักส่วนตัว แต่เป็นการดำเนินการ ผ่านนายหน้าทั้งหมด การทำธุรกิจ ไม่ได้เป็นการฟอกเงินให้ใคร
ตนเป็นแค่คนที่ไม่มีเงิน แต่ว่าต้องการเดินหน้าธุรกิจต่อ ธนาคารไม่ให้กู้ ก็ใช้วิธีการกู้เงินนอกระบบ แล้วก็การเดินทางไปอังกฤษครั้งนี้ ไม่ได้ไปพุดคุยกับ เอ็ดดี้ แต่อย่างใด เรื่องราวของการซื้อโรงแรมของ เอ็ดดี้ ก็เพิ่งมาทราบเมื่อตอนที่เป็นข่าวเหมือนกัน และก็ที่สำคัญ นอท ยังเอ่ยถึงเรื่องที่โดนแฉในขณะนี้ว่า เรื่องต่างๆ ที่ทำการแฉออกมา ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแม้แต่เรื่องเดียว
แล้วก็ไม่ได้กังวลสำหรับการดำเนินการของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และก็ ปปง. สถานะในเรื่องของการฟอกเงินถึงเวลานี้ ยังเป็นในส่วน พยาน เท่านั้น ถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง ตนก็พร้อมสำหรับการทำตามกฎหมาย แล้วก็ถ้าหากสุดท้าย มีการออกหมายจับ ก็จำเป็นต้องยอมรับ และก็ไปสู้คดี ไม่ได้มีความกังวลอะไร ด้วยเหตุว่าตนรู้ดีว่ากำลังทำอะไร และก็ไม่ได้ฟอกเงินให้ใคร
ด้าน สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า
สำหรับการดำเนินการนั้น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพียงเจ้าใดเจ้าหนึ่งแค่นั้น แต่เป็นการดำเนินการทั้งหมดทุกแพลตฟอร์ม ที่ดำเนินกิจการการขายสลากออนไลน์ ที่มองว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สำหรับการดำเนินกิจการสลากอย่างนี้ ในบางประเทศอนุญาต และมีในบางประเทศ ที่ไม่ได้อนุญาต หรือให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทน โดยนำส่งเงินเข้ารัฐ ส่วนของไทย ดำเนินกิจการแบบผูกขาดโดยรัฐ และก็ใช้วิธีการขายผ่านรายย่อย และบางส่วนขายผ่านมูลนิธิ สมาคมสังคมสงเคราะห์ ไม่ได้อนุญาตให้ใครเป็นเอเย่นต์ทำซ้ำทำขายเพิ่มเติม
ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้มีการศึกษาในเชิงวิชาการ ก็พบว่าถึงอย่างไรทางออกสำหรับการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้อยู่ในราคา 80 บาท จะต้องใช้วิธีการของการทำเป็นสลากดิจิทัล การที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำแพลตฟอร์มออกมาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ที่สำคัญ สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย ต้องขายในราคา 80 บาทเพียงแค่นั้น และยังคงดำเนินการอย่างนี้อยู่ การทำแพลตฟอร์มอื่น รวมทั้งการขายสลากเกินราคา อ้างค่าบริการ ถือว่าไม่ถูกกฎหมาย
สำหรับในการดำเนินการ ในขณะนี้ได้เชิญ 5 หน่วยงานมาพูดคุยแล้ว ทั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และก็คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พบว่ามีหลายกรณีที่จะต้องทำการสอบเพิ่ม ลำดับถัดไป ก็เชิญกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและก็สังคม ซึ่งมีหน้าที่ในการปิดเว็บไซต์ แพลตฟอร์มต่างๆ กรมสรรพากร ในเรื่องของการตรวจสอบภาษี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อดูว่า ใครเป็นหุ้นส่วน ของแพลตฟอร์ม
ประเด็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ ที่มีการเพ่งเล็ง แพลตฟอร์มสลาก หรือหวยออนไลน์ สมชาย ให้ข้อมูลว่า การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มเหล่านี้ เป็นกระบวนการการฟอกเงินผิดกฎหมาย เท่าที่เขาเล่ารายละเอียดเบื้องต้น จะมีทั้งเงินที่มาจากบ่อนคาสิโนรอบเมืองไทย เงินจากเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเม็ดเงินที่มาจากบ่อนการพนันภายในประเทศเอง ซึ่ง สมชาย มองว่า กระบวนการพวกนี้มีความผิดที่ชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งการขายสลากที่เกินราคา แบบต่างกรรมต่างวาระ และบางแพลตฟอร์มที่มีการพันพัวเงินสีเทา